สกรีนเสื้อแล้วเจอปัญหาแบบนี้ใช่ไหม? วิธีแก้ + ป้องกันก่อนสั่งล็อตต่อไป
“ลายหลุดหลังซักครั้งเดียว…”
“สีตกจนเลอะเสื้อขาวตัวอื่นในเครื่อง”
“ซักแล้วเสื้อหด จนใส่ไม่ได้เลย”
คุณไม่ได้เจออยู่คนเดียว
และความจริงคือ… ส่วนใหญ่เกิดจากขั้นตอนผลิตที่ควบคุมไม่ดี
บทความนี้จะช่วยให้คุณ:
- เข้าใจสาเหตุของปัญหาสกรีน
- มีวิธีตรวจเช็กงานก่อนรับ
- และรู้ว่า “ร้านสกรีนเสื้อ” แบบไหนจะไม่ทำให้คุณพลาดอีก

ปัญหาสกรีนเสื้อที่พบบ่อย
1. ลายหลุดหลังซัก
สาเหตุ:
– ใช้ระบบ DTF/DTG โดยไม่มีการอบลายให้เพียงพอ
– ไม่ได้ใช้หมึกแท้ หรือหมึกเกรดต่ำ
ทางแก้:
✅ ถามร้านว่าอบลายหรือเคลือบฟิล์มไหม
✅ ทดสอบเบื้องต้นด้วยการขูดเบา ๆ
2. สีตก
สาเหตุ:
– ผ้าไม่ได้ผ่านกระบวนการล้างเคมี
– ใช้หมึกหรือสีไม่คงทน
– ใช้เสื้อผ้าสีเข้มเกินไปกับสีอ่อน
ทางแก้:
✅ สั่งผ้าคุณภาพ เช่น Cotton combed
✅ แยกซักครั้งแรก
✅ ถามร้านว่าสีที่ใช้เป็นหมึกอะไร / มีการ test ไหม
3. เสื้อหด
สาเหตุ:
– ใช้ผ้าฝ้ายที่ไม่ได้ pre-shrunk
– เสื้อไม่ได้ผ่านกระบวนการเซ็ตผ้า
ทางแก้:
✅ สั่งเสื้อที่ pre-shrunk แล้ว (ร้านต้องแจ้งชัด)
✅ หรือสั่งไซซ์เผื่อเล็กน้อย
4. ลายไม่ตรงตำแหน่ง
สาเหตุ:
– ร้านวางลายด้วยมือแบบไม่ชัวร์
– ไม่มี Mockup ให้ตรวจ
– เครื่องไม่ได้ค calibrated
ทางแก้:
✅ ขอ Mockup เสมอ
✅ ระบุตำแหน่งชัดเจน: กึ่งกลาง, ระยะจากคอ ฯลฯ
✅ เช็คลิสต์ก่อนรับเสื้อกลับบ้าน
- ✔️ ลองดึงเนื้อผ้าเบา ๆ ดูว่าลายยืดตามไหม
- ✔️ เช็กตำแหน่งลายเท่ากันทุกตัวหรือไม่
- ✔️ ส่องกับแสงดูหมึกพิมพ์มีรอยแตกไหม
- ✔️ ถามเรื่องการอบลาย / ประกันงาน / เคลมได้ไหม
ร้านแบบไหนไม่ให้คุณเจอปัญหาแบบนี้ซ้ำ?
ร้านสกรีนเสื้อ ที่ดีจะ…
✅ ใช้หมึกแท้มาตรฐาน
✅ อบลายและ QC ทุกตัว
✅ มีระบบ Mockup
✅ รับผิดชอบงานที่มีปัญหาจริง (ตามเงื่อนไข)
บางเคสถึงกับเสนอ “พิมพ์ใหม่ฟรี” ถ้าเกิดจากความผิดของร้าน
ซึ่งช่วยลดความกังวลใจได้มากในกรณีงานเร่ง / งานลูกค้า
สรุป
คุณมีสิทธิ์ได้งานดีตั้งแต่ล็อตแรก
แค่ต้องเข้าใจปัญหาที่ “อาจเกิดขึ้น” และเลือกทำกับร้านที่รู้จริง + มีมาตรฐาน
อย่าปล่อยให้เสื้อสวย ๆ ต้องเสียเพราะความไม่รอบคอบของร้าน
รู้ก่อน → ป้องกันได้
เจอแล้ว → แก้ทัน ไม่ต้องเสียเงินซ้ำ